นโยบายคุกกี้และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายคุกกี้ (Cookies Policy)
เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายๆ กัน การใช้เทคโนโลยีการติดตาม(คุกกี้) เป็นมาตรฐานทั่วไปบนอินเตอร์เน็ต และเบราวเซอร์สำหรับท่องอินเตอร์เน็ตทั่วไปจะตั้งค่ายอมรับการใช้งานคุกกี้อัตโนมัติ อย่างไรก็ตามการตัดสินใจว่าจะใช้คุกกี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณ คุณสามารถเลือกที่จะยอมรับหรือไม่ยอมรับการใช้งานคุกกี้ได้ หรือจะตั้งค่าเบราวเซอร์เพื่อไม่ยอมรับการใช้งานคุกกี้ หรือตั้งให้เตือนเวลาที่เว็บไซต์ส่งคุกกี้มาให้คุณ ในกรณีที่คุณใช้งานเว็บไซต์เราต่อ คุณได้ทำการยอมรับการใช้เทคโนโลยีการติดตาม(คุกกี้)ของเราตามนโยบายการใช้เทคโนโลยีการติดตาม(คุกกี้) ฉบับนี้ หากคุณไม่ต้องการใช้คุกกี้บนเว็บไซต์เรา คุณสามารถตั้งค่าไม่รับคุกกี้บนเบราวเซอร์ หรือไม่ใช้งานเว็บไซต์ รายละเอียดวิธีการตั้งค่าคุกกี้บนเบราวเซอร์ที่นิยมใช้กันทั่วไปอยู่ในข้อมูลด้านล่าง อย่างไรก็ตามหากปิดการคุกกี้ ฟั่งก์aชั่น คุณสมบัติบางอย่างของเว็บไซต์อาจทำงานได้ไม่สมบูรณ์
อะไรคือเทคโนโลยีการติดตาม (คุกกี้)?
เทคโนโลยีการติดตาม (คุกกี้) เป็นไฟล์ขนาดเล็กที่เก็บไว้บนคอมพิวเตอร์ของคุณ (หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ต่ออินเตอร์เน็ต เช่น สมาร์ทโฟนหรือแท๊บเล็ต) เมื่อคุณเข้าเว็บไซต์. โดยปกติคุกกี้มักจะเป็นชื่อไฟล์ที่มีชื่อเว็บไซต์ ค่าอายุของคุกกี้นั้นๆ ตาม (ว่าคุกกี้ตัวนี้มีอายุการใช้งานบนอุปกรณ์ของคุณเท่าไหร่) และตามด้วยค่าต่างๆ ที่ถูกสร้างด้วยระบบอัตโนมัติและเป็นค่าที่ไม่ซ้ำกัน
คุกกี้ใช้ทำอะไร?
เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้ประสบการณ์การเข้าเว็บไซต์ของเราดีขึ้น ใช้เว็บไซต์ง่ายขึ้น แสดงผลิตภัณฑ์ที่ตรงความต้องการของคุณมากขึ้น อีกทั้งคุกกี้ยังช่วยให้ฟั่งชั่นต่างๆ บนเว็บไซต์ทำงานเร็วขึ้น ตัวอย่างเช่น เราใช้คุกกี้เพื่อจดจำการตั้งค่าต่างๆ บนเว็บไซต์ของคุณ (ภาษา, ประเทศเป็นต้น) เพื่อให้ประสบการณ์การเข้าเว็บของเราง่ายขึ้นในอนาคต นอกจากนี้เรายังใช้คุกกี้เพื่อรวบรวมสถิติโดยรวมที่ไม่ระบุชื่อซึ่งช่วยให้เราเข้าใจว่าผู้คนใช้งานเว็บไซต์ของเราอย่างไรและเพื่อช่วยเราปรับปรุงโครงสร้างและเนื้อหาของพวกเขา ข้อมูลนี้จะไม่เปิดเผยตัวตนของคุณ“ในโลกแห่งความเป็นจริง” ในบางครั้งหากเราได้รับความยินยอมจากคุณล่วงหน้าเราอาจใช้คุกกี้, แท็กหรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันเพื่อรับข้อมูลที่ทำให้เราสามารถแสดงให้คุณเห็นเว็บไซต์หรือจากเว็บไซต์จากบุคคลที่สาม หรือการโฆษณาอื่นๆ ตามการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ
เราไม่ใช้คุกกี้ทำอะไรบนเว็บไซต์นี้บ้าง?
เราจะไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญ เช่น ที่อยู่, รหัสผ่าน, ข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิตของคุณ ฯลฯ ในคุกกี้บนเว็บไซต์นี้ ใครใช้ข้อมูลที่อยู่บนคุกกี้? ข้อมูลบนคุกกี้ของเว็บไซต์นี้จะถูกใช้โดยเราเท่านั้น ยกเว้นแต่คุกกี้อื่นๆ ที่เรียกว่า “คุกกี้จากบุคคลที่สาม” ซึ่งจะถูกใช้งานและจัดการโดยหน่วยงานภายนอก ซึ่งคุกกี้จากบุคคลที่สามเหล่านี้เป็นบริการที่เราขอนำมาใส่ในเว็บไซต์ด้วยตัวเราเอง เพื่อปรับปรุงบริการและประสบการณ์ของผู้ใช้เมื่อเรียกดูเว็บไซต์ของเรา บริการหลักที่ใช้ “คุกกี้ของบุคคลที่สาม” เหล่านี้ใช้เพื่อรับสถิติการเข้าถึงและเพื่อรับประกันธุรกรรมการชำระเงิน
เราจะใส่คุกกี้ที่ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลที่สามหรือไม่?
เราอาจวางคุกกี้ของเราไว้ในเว็บไซต์ของพันธมิตรที่เผยแพร่โฆษณาสำหรับแบรนด์และ/หรือผลิตภัณฑ์ของเรา คุกกี้ส่วนใหญ่เหล่านี้จะใช้เพื่อแสดงเนื้อหาที่เหมาะสมสอดคล้อง กับความสนใจของคุณและเพื่อประเมินการให้คำปรึกษาของเนื้อหาของเรา (รวมถึงการโฆษณา)
เราใช้คุกกี้ประเภทใด?
เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้และ/หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน เช่น รหัสอุปกรณ์, พิกเซลแท็ก, หรือเว็บบีคอน เพื่อรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลบางอย่าง โดยทั่วไปแล้วจะเกี่ยวข้องกับข้อมูลหรือโค้ดที่เว็บไซต์ ถ่ายโอน หรือ เข้าถึง จากฮาร์ดไดรฟ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพาของคุณ เพื่อจัดเก็บ และบางครั้งก็ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับคุณ คุกกี้และเทคโนโลยีที่คล้ายกันจะจำคุณได้เมื่อใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์นั้นๆ เข้าสู่เว็บไซต์ของเรา, ใช้งานเว็บไซต์ และบริการออนไลน์ของเรา อีกทั้งยังใช้เพื่อจัดการคุณสมบัติและเนื้อหาต่างๆ รวมถึงการจัดเก็บการค้นหาและการนำเสนอเนื้อหาส่วนบุคคล เราใช้คุกกี้ประเภทต่อไปนี้:
คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานของเว็บไซต์ของเราและภายใต้ข้อกำหนดของเรากับคุณ ตัวอย่างเช่นคุกกี้ที่ช่วยให้คุณสามารถเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยของเว็บไซต์ของเราและใช้ตะกร้าสินค้า
คุกกี้เชิงวิเคราะห์ / ประสิทธิภาพ
คุกกี้เพื่อให้เรารับรู้และนับจำนวนผู้เยี่ยมชมและดูว่าผู้เยี่ยมชมใช้งานเว็บไซต์ของเราอย่างไร สิ่งนี้ช่วยให้เราได้รับผลประโยชน์สำหรับการปรับปรุงวิธีการทำงานของไซต์ของเราได้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น โดยทำให้มั่นใจว่าผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดายคุกกี้ฟังก์ชั่นคุกกี้เพื่อจดจำคุณเวลาที่คุณกลับมายังเว็บไซต์ของเรา ช่วยให้เราจดจำการตั้งค่าของคุณเพื่อปรับเปลี่ยนเนื้อหาของเราทักทายคุณด้วยชื่อและจดจำการตั้งค่าของคุณ (ตัวอย่างเช่นการเลือกภาษา หรือภูมิภาค)
คุกกี้กำหนดเป้าหมาย / คุกกี้โฆษณา
คุกกี้เหล่านี้จะบันทึกการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราหน้าเว็บที่คุณเยี่ยมชมและลิงค์ที่คุณติดตาม เราจะใช้ข้อมูลคุกกี้เพื่อจดจำตัวเลือกบนเว็บไซต์ และการตั้งค่าของคุณแสดงผลโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของคุณมากขึ้น เราอาจแบ่งปันข้อมูลนี้กับบุคคลที่สามเพื่อการโฆษณา
คุกกี้วิเคราะห์สื่อโซเชียลและคุกกี้ของพันธมิตรโฆษณา
Facebook Connect:
เราอาจอนุญาตให้คุณสมัครและเข้าสู่ระบบโดยใช้บัญชี Facebook ของคุณ หากคุณสมัครใช้งานโดยใช้ Facebook Connect, Facebook จะขออนุญาตจากคุณในการแบ่งปันข้อมูลบางอย่างจากบัญชี Facebook ของคุณกับเรา ซึ่งอาจรวมถึงชื่อ, นามสกุล, ที่อยู่อีเมล เพื่อให้เรายืนยันตัวตนและเพศ, เขตที่อยู่ทั่วไป, ลิงก์ไปยังโปรไฟล์ Facebook, เขตเวลา, วันเกิด, รูปภาพโปรไฟล์, "ไลค์" ของคุณ และรายชื่อเพื่อน ข้อมูลนี้ถูกรวบรวมโดย Facebook และให้ไว้กับเราภายใต้ข้อกำหนดของนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Facebook ซึ่งคุณสามารถดูได้ที่นี่: https://www.facebook.com/policy.php คุณสามารถควบคุมข้อมูลที่เราได้รับจาก Facebook โดยใช้การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในบัญชี Facebook ของคุณ
Facebook Custom Audience:
บริการนี้จาก Facebook ช่วยให้เราสามารถแสดงโฆษณาในแบบของคุณให้กับผู้ที่อยู่ในรายการอีเมลของเราเมื่อพวกเขาเข้าเว็บไซต์ Facebook.com เราให้ข้อมูลของคุณ เช่นที่อยู่อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ของคุณที่เข้ารหัสเอาไว้ (“เข้ารหัสแฮช” เพื่อให้ไม่มีมนุษย์อ่านได้) ส่งไปยัง Facebook เพื่อเปิดใช้งาน Facebook เพื่อตรวจสอบว่าคุณเป็นผู้ถือบัญชีที่ลงทะเบียนกับ Facebook หรือไม่ คุณสามารถอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Facebook ได้ที่นี่: https://www.facebook.com/policy.php
Google Tag Manager:
เว็บไซต์ของเรายังใช้ Google Tag Manager บริการนี้ช่วยให้สามารถจัดการแท็กเว็บไซต์ผ่านอินเทอร์เฟซของ Google แท็กคือองค์ประกอบเล็กๆ ของโค้ด ใช้สำหรับ เพื่อวัดจำนวนผู้เข้าเว็บไซต์, ดูพฤติกรรมผู้เยี่ยมชม เพื่อวิเคราะห์และทำความเข้าใจผลการโฆษณา และสื่อโซเชี่ยล เพื่อตั้งค่ารีมาร์เก็ตติ้ง ตั้งค่าโฆษณาสู่กลุ่มเป้าหมายต่างๆ และทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์Google Tag Managers ใช้สำหรับจัดการแท็กเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการใช้คุกกี้และไม่มีการบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล เราแสดงรายการไว้ที่นี่เพื่อความโปร่งใสเกี่ยวกับเครื่องมือที่เราใช้ หากปิดการใช้งานในระดับโดเมนหรือคุกกี้ ระบบ Google Tag Manager จะเหลือแค่ข้อมูลแท๊กที่เราใช้งานเท่านั้น
Google Analytics:
เว็บไซต์ของเราใช้ Google Analytics ซึ่งเป็นบริการวิเคราะห์เว็บ Google Analytics ใช้คุกกี้เพื่อช่วยเว็บไซต์วิเคราะห์วิธีการที่ผู้เยี่ยมชมใช้งานเว็บไซต์ ข้อมูลที่สร้างขึ้นโดยคุกกี้เกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ (รวมถึงที่อยู่ IP ของคุณ) จะถูกส่งและจัดเก็บโดยเซิร์ฟเวอร์ Google ในสหรัฐอเมริกา. Google ใช้ข้อมูลนี้เพื่อประเมินการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ รวบรวมรายงานกิจกรรมบนเว็บไซต์ และการใช้อินเทอร์เน็ต สำหรับผู้ให้บริการเว็บไซต์และให้บริการเว็บไซต์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถป้องกันการจัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานเว็บไซต์ของคุณและสร้างผ่านคุกกี้ (รวมถึงที่อยู่ IP ของคุณ) โดย Google รวมถึงการประมวลผลข้อมูลนี้โดย Google โดยการดาวน์โหลดและติดตั้งปลั๊กอินของเบราว์เซอร์ที่มีดังต่อไปนี้ ลิงก์: https://tools.google.com/dlpage/gaoptout?hl=en.
วิธีจัดการการตั้งค่าคุกกี้ในอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ของคุณ?
ตามปกติการตั้งค่าจากเบราว์เซอร์ท่องอินเทอร์เน็ตจะตั้งโปรแกรมให้ยอมรับคุกกี้ แต่คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายโดยเปลี่ยนการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของคุณ อย่างไรก็ตามหากปิดการคุกกี้ ฟั่งก์ชั่น คุณสมบัติบางอย่างของเว็บไซต์อาจทำงานได้ไม่สมบูรณ์
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวปฎิบัติ
บทนำ
นโยบายฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้บุคลากรของบริษัท คู่ค้า ลูกค้า ผู้มาติดต่องานหรือบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องได้ทราบและเข้าใจนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และเก็บข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นบริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") ได้ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ในการรับรองสิทธิของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการคุ้มครองในเรื่องการเก็บรวบรวมและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ทำการเก็บ รวบรวม และประมวลผลข้อมูล โดยประกาศฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์ของบริษัท
คำนิยาม
“บริษัท” หมายถึง บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) รวมถึงบริษัทย่อยที่อยู่ในอํานาจควบคุม
“บุคลากรของบริษัท” หมายถึง กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ของบริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย และ/หรือ บริษัทที่อยู่ในอํานาจควบคุม
“ลูกค้า” หมายถึง บุคคลทั่วไป องค์กร บริษัท ห้างร้าน/นิติบุคคล รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานภาครัฐ ที่ซื้อสินค้า และ/หรือใช้บริการของบริษัท
“คู่ค้า” หมายถึง บริษัท ห้างร้าน/นิติบุคคล และบุคคล ที่ซื้อ-ขายสินค้า หรือบริการให้กับบริษัท
“ผู้มาติดต่องาน หมายถึง บุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่องาน มาเยี่ยมชม หรือมาตรวจสอบใดๆ กับบริษัทที่นอกเหนือจากการซื้อและขายสินค้าบริการ
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม ตัวอย่างของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น
(1) ชื่อ-นามสกุล หรือชื่อเล่น
(2) เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขบัตรประกันสังคม เลขใบอนุญาตขับขี่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต
(3) ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์
(4) ข้อมูลอุปกรณ์สำหรับการใช้งานเครือข่ายหรือเครื่องมือ เช่น IP address, MAC address และ Cookie ID เป็นต้น
(5) ข้อมูลทางชีวมิติ (Biometric) เช่น ภาพใบหน้า ลายนิ้วมือ ฟิล์มเอกซเรย์ ข้อมูลสแกนม่านตา ข้อมูลอัตลักษณ์เสียง รวมถึงข้อมูลทางพันธุกรรม เป็นต้น
(6) ข้อมูลระบุทรัพย์สินของบุคคล เช่น ทะเบียนรถ และโฉนดที่ดิน เป็นต้น
(7) ข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงไปยังข้อมูลข้างต้นได้ เช่น วันเกิดและสถานที่เกิด เชื้อชาติ สัญชาติ น้ำหนัก ส่วนสูง ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ (Location) ข้อมูลการแพทย์ ข้อมูลการศึกษา ข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลการจ้างงาน เป็นต้น
(8) ข้อมูลการประเมินผลการปฎิบัติงานหรือความเห็นของนายจ้างต่อการทำงานลูกจ้าง
(9) ข้อมูลบันทึกที่ใช้ติดตามตรวจสอบกิจกรรมต่างๆ ของบุคคล เช่น บันทึกข้อมูลการใช้งาน ( Log file) เป็นต้น
(10) ข้อมูลที่สามารถใช้ในการค้นหาข้อมูลส่วนบุคคลอื่นทางอินเตอร์เน็ต
“ข้อมูล” หมายถึง สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสิ่งใดๆ ไม่ว่าการสื่อความหมายนั้นจะทำได้โดยสภาพของสิ่งของนั้นเองหรือผ่านวิธีการใดๆ และไม่ว่าจะได้จัดทำไว้ในรูปของเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ภาพถ่าย ภาพวาด การบันทึกเสียง การบันทึกโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นใดที่ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฎได้
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ที่เกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ พันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ม่านตาหรือลายนิ้วมือ ข้อมูลสหภาพแรงงาน หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่นบุคคลได้ประกาศให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
“ผู้ควบคุมข้อมูล” หมายถึง บริษัทผลธัญญะ จำกัด (มหาชน)
“ผู้ประมวลผลข้อมูล” หมายถึง บุคคลผู้ประมวลผลข้อมูลเพื่อประโยชน์หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูล
“บุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้
“เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ให้คำแนะนำและตรวจสอบการดำเนินงาน ประสานงาน และให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
นโยบายและแนวปฎิบัติ
1. การเก็บรวบรวม การใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล คือ การเข้าถึงและเข้าใช้บริการในระบบโปรแกรมและเว็บไซต์ เช่น ระบบโปรแกรมทางบัญชี การใช้เว็บไซต์ในการสมัครเป็นสมาชิกและไม่ได้เป็นสมาชิก เป็นต้น ซึ่งบริษัทจัดให้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัท การใช้สั่งซื้อสินค้าและบริการ สอบถามข้อมูล ร้องเรียน แจ้งข้อเสนอแนะ รวมถึงเรื่องอื่นๆ ที่จำเป็นตามที่เจ้าของข้อมูลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนได้ เพื่อให้บริษัทได้ดำเนินการให้สิทธิหรือประโยชน์ สำหรับการเข้าใช้บริการตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน รวมถึง พัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ การจัดทำการตลาดเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสินค้าและบริการ การทำวิจัย วิเคราะห์และการสำรวจตลาด การทำข้อมูลเชิงสถิติเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการใหม่
บริษัทมีการเก็บรวบรวม การใช้ การจัดเก็บ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งถึงความถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบันของข้อมูลด้วยวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม บริษัทมีการจัดเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็นในการให้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการดำเนินงานในด้านอื่นๆตามอำนาจหน้าที่และวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัทซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น โดยบริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบและขอความยินยอมก่อนเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด และหรือในกรณีอื่นๆ ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้
บริษัท อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลผ่านหลายช่องทาง ดังต่อไปนี้
1.1 เก็บรวบรวมโดยตรงจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น
(1) การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบกระดาษ และ/หรือ รูปแบบออนไลน์
(2) ข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลลงทะเบียนไว้กับบริษัท ในการติดต่อสอบถาม สร้างบัญชีผู้ใช้งาน การสั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ ข้อเสนอแนะ หรือคำติชมเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการผ่านเว็บไซต์ ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้น รวมถึงผ่านทางโซเชียลมีเดีย ฯลฯ ตัวอย่างข้อมูลส่วนตัวที่ลงทะเบียนอาจหมายถึง ชื่อ-นามสกุล เพศ อายุ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ อีเมล เป็นต้น บริษัทอาจใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการติดต่อ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท
1.2. ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย
กรณีเจ้าของข้อมูลติดต่อบริษัทผ่านทางโซเชียลมีเดีย ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมอาจครอบคลุมถึง ข้อมูลโปรไฟล์จากโซเชียลมีเดียที่เจ้าของข้อมูลใช้และอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าว อาทิ รูปโปรไฟล์ ที่อยู่อีเมล รายชื่อเพื่อน ซึ่งถือได้ว่าท่านอนุญาตให้บริษัท เข้าถึง เก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียนี้ได้ตามข้อกำหนดในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
1.3. ข้อมูลจากการใช้งานของเจ้าของข้อมูล
เมื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทอาจเก็บข้อมูลจากการใช้งาน อาทิ รหัสของเครื่อง ที่อยู่ IP รวมถึง ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง ข้อมูลบราวเซอร์ ภาษาที่เลือกใช้ วันเวลาและระยะเวลาที่เข้าใช้งาน ข้อมูลการซื้อสินค้า ความชื่นชอบ และข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับวิถีทางการดำเนินชีวิต (Lifestyle) ได้แก่ งานอดิเรก กีฬาที่ชื่นชอบ เป็นต้น เพื่อวิเคราะห์และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งาน และนำเสนอเว็บไซต์และข่าวสารต่างๆ ของบริษัท ให้สอดคล้องกับความต้องการ (ยกเว้นเจ้าของข้อมูลเลือกที่จะไม่รับข้อมูลข่าวสารจากบริษัท ) ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่บริษัท เก็บรวบรวมจากผู้ใช้งานทุกคนไม่ว่าจะมีบัญชีผู้ใช้หรือมีการกรอกข้อมูลใดๆ บนเว็บไซต์นี้หรือไม่ก็ตาม บริษัทอาจจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น หากเจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลนั้น ในกรณีนี้หมายรวมถึงข้อมูลที่มาจากแหล่งการค้าอื่นๆ เช่น ฐานข้อมูลสาธารณะ และตัวแทนจัดหาข้อมูลรวมถึงข้อมูลจากบุคคลอื่นใด
2. ฐานการประมวลผลข้อมูล และวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
การประมวลผลข้อมูล คือ บริษัทจะนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาประมวลผลข้อมูล โดยดำเนินการ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้าง เก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือกระทำอื่นใดเพื่อให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวางหรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
2.1 การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ฐานการประมวลผลข้อมูล ดังต่อไปนี้
ฐานสัญญา (contract) เมื่อเจ้าของข้อมูลสมัครเป็นสมาชิก หรือไม่ได้เป็นสมาชิก รวมถึงการใช้บริการด้านอื่นๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าของข้อมูลต้องให้ข้อมูลแก่บริษัท เพื่อบริษัทจะได้นำข้อมูลส่วนบุคคดังกล่าวนั้นไปประมวลผลเกี่ยวกับการให้บริการตามเงื่อนไขที่ตกลงในการให้บริการ รวมถึงนำไปใช้ในการติดต่อสื่อสาร ติดตาม และแจ้งผลประโยชน์เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ตอบข้อคำถาม ซึ่งหากเจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการ ไม่สามารถจัดสิทธิและประโยชน์ตามเงื่อนไข ไม่สามารถติดต่อสื่อสาร และไม่สามารถตรวจสอบความสามารถในการเข้าทำสัญญา รวมถึงตรวจสอบความเป็นตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 24(3) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ฐานความยินยอม (Consent) กรณีมีความจำเป็นบริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปใช้ในการประมวลผลข้อมูลเพื่อการออกแบบหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ/หรือการบริการเพื่อนำเสนอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือการบริการเพื่อจัดกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท หรือเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หากเจ้าของข้อมูลไม่ประสงค์ในส่วนนี้สามารถถอนคำยินยอมได้โดยผ่านช่องทางติดต่อของบริษัท
ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) กรณีมีความจำเป็นบริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการจัดการและจัดทำรายงานที่จำเป็นภายในบริษัท การดูแลรักษาระบบเพื่อการรักษามาตรฐานหรือพัฒนาในบริการนั้น การบริหารจัดการความเสี่ยงภายในองค์กร การควบคุมและการตรวจสอบภายใน ซึ่งมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลและการนำไปใช้ของผู้ประมวลผลข้อมูล ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 24 (5) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ. ศ. 2562
ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation) กรณีมีความจำเป็นบริษัทอาจนำข้อมูลของเจ้าของข้อมูลไปใช้ในการประมวลผลข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 พระราชบัญญัติบริษัท มหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องอยู่ภายใต้การบังคับให้ส่งข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ให้อำนาจศาลสั่งให้คู่ความส่งเอกสารหรือข้อมูลในการพิจารณาคดีความ เป็นต้นซึ่งเป็นไปตามมาตรา 24 (6) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
2.2 วัตถุประสงค์ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทกำหนดวัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
2.2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า หรือผู้มาติดต่องาน บริษัทจัดเก็บรักษาและจะนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) นำเสนอข้อมูลสินค้าและบริการ การจัดกิจกรรมแข่งขันชิงรางวัล กิจกรรมส่งเสริมการขาย ตลอดจนการให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เจ้าของข้อมูลได้แจ้งความประสงค์ที่จะรับข้อมูล
(2) การตอบสนองต่อข้อซักถามและให้คำปรึกษา
(3) วิเคราะห์ประสิทธิภาพของสื่อโฆษณา การแข่งขัน และการส่งเสริมการขาย
(4) ปรับปรุง ปรับแต่งเว็บไซต์ตามความต้องการ รวมถึงการประเมินสถิติการเข้าเว็บไซต์ เช่น เวลาในการเยี่ยมชมร้านค้า ไม่ว่าเจ้าของข้อมูลจะเคยเยี่ยมชมมาก่อนหรือไม่ รวมถึงการเยี่ยมชมสาขาของบริษัท
(5) ทำให้เว็บไซต์ใช้งานได้ง่ายขึ้น รวมถึง ปรับเว็บไซต์และสินค้าให้เหมาะสมกับความสนใจและความต้องการ
(6) พัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการของบริษัท ตามข้อมูลและผลสำรวจทางการตลาด
(7) การให้การสนับสนุนและการบำรุงรักษาเกี่ยวกับสินค้า
(8) การออกใบรับรองการให้บริการตามการรับประกันสินค้า
(9) การให้บริการสมาชิกต่างๆ
(10) การให้บริการข้อมูล การจัดทำข้อมูลด้านสถิติ
(11) ตรวจสอบเพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาและปรับปรุง สินค้า กลยุทธ์ทางธุรกิจ
(12) การดำเนินงานของสัญญา
2.2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคลากรของบริษัท รวมถึง บริษัท คู่ค้า และบุคคลที่สาม บริษัทจะนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) การสื่อสาร และ/หรือ การเจรจาทางธุรกิจ
(2) การจัดการข้อมูล และการประมวลผลข้อมูล อาทิ ข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ การรับ จ่าย ชำระเงิน
(3) การทำงานที่เกี่ยวเนื่องจากสัญญาและงานที่ได้รับมอบหมาย
2.2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น บริษัทจะนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
2.2.4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับการเข้าทำงานและการลาออก ของบุคลากรของบริษัท และผู้สมัครงาน
(1) เพื่อการจัดทำฐานข้อมูล และการเก็บประวัติ (รวมถึงการฝึกงาน)
(2) เพื่อพิสูจน์ตัวตน ตรวจสอบประวัติการศึกษา และประวัติการทำงาน
(3) เพื่อการจัดทำสวัสดิการ
(4) เพื่อประโยชน์ในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี
(5) เพื่อการติดต่อ ประเมินผล และบริหารความสัมพันธ์
(6) เพื่อการบริหารและจัดการความเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
(7) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎระเบียบ ตลอดจนแนวทางหรือข้อกำหนดต่างๆ ของหน่วยงานที่กำกับดูแลการดำเนินงานของบริษัท
(8) เพื่อการปฏิบัติตามระเบียบการดำเนินการภายในของบริษัท
(9) เพื่อการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลการให้บริการของบริษัท และบริหารความสัมพันธ์ของบริษัท
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการประมวลผล และระยะเวลาในการเก็บรวบรวม
บริษัทจะทำการประมวลผลข้อมูล ข้อมูลส่วนบุคคล ตามนโยบายของบริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์มือถือ อีเมล และข้อมูลการใช้บริการอื่นๆ ของเจ้าของข้อมูล เป็นต้น
บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่งตามที่ระบุในนโยบาย โดยบริษัทจะเก็บข้อมูลจนกว่าจะได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวนั้น และจะไม่เก็บข้อมูลดังกล่าวหากบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว เว้นแต่บริษัทจำเป็นที่จะต้องดำเนินการด้วยเหตุผลตามกฎหมาย
4. ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลอาจเปิดเผย
บริษัทอาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับผู้สอบบัญชีของบริษัท ผู้ตรวจสอบภายนอกของบริษัท และหน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น
5. สิทธิของเจ้าของข้อมูล
สิทธิตามกฎหมายของเจ้าของข้อมูลสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้ หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนดขึ้น และในกรณีเจ้าของข้อมูลมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์ โดยสิทธิของท่านมีดังต่อไปนี้
5.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม เจ้าของข้อมูลสามารถเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่กับบริษัท
5.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล โดยขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับเจ้าของข้อมูลได้ รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทได้
5.3 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง โดยขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ได้
5.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล โดยการขอให้บริษัททำการลบข้อมูลด้วยเหตุบางประการได้
5.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้
5.6 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการโอนย้าย ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือเจ้าของข้อมูลเอง ด้วยเหตุบางประการได้
5.7 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้
5.8 สิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากเจ้าของข้อมูลเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้น เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากบริษัทปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ทราบด้วย
การร้องขอใดๆ ตามรายการข้างต้นนั้น เจ้าของข้อมูลจะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่เกินระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหน โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
ข้อจำกัดในการให้บริการด้านต่างๆ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลขอให้บริษัท ลบ ทำลาย ระงับ ขอให้โอน การคัดค้านหรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวตนได้ หรือถอนความยินยอม อาจทำให้เกิดข้อจำกัดกับบริษัทในการทำธุรกรรมหรือการให้บริการกับเจ้าของข้อมูลในบางกรณีได้ ทั้งนี้ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขของการยินยอมใช้บริการด้านต่างๆ และ/หรือตามที่กฎหมายกำหนด
6. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
6.1 จัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
6.2 จัดการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความปลอดภัยเมื่อข้อมูลดังกล่าวไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ทางกฎหมายและธุรกิจอีกต่อไป หากเจ้าของข้อมูลมีเหตุให้เชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกละเมิดโดยบริษัท กรุณาติดต่อบริษัทผ่านช่องทางการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้
รหัสผ่านของเจ้าของข้อมูลมีความสำคัญสำหรับบัญชีการใช้บริการ กรุณาใช้ตัวเลข ตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่แตกต่างกัน และไม่แบ่งปันรหัสผ่านแก่ผู้อื่น หากมีการแบ่งปันรหัสผ่านแก่ผู้อื่น เจ้าของข้อมูลเป็นผู้รับผิดชอบต่อการกระทำต่างๆ ที่ได้กระทำในนามหรือผ่านทางบัญชีการใช้บริการของเจ้าของข้อมูลและผลที่ตามมา หากไม่สามารถควบคุมรหัสผ่านได้ อาจส่งผลให้ไม่สามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอื่นๆ ที่ส่งให้แก่บริษัท เจ้าของข้อมูลอาจต้องยอมรับนิติกรรมใดๆ ที่กระทำ ในนามของเจ้าของข้อมูล ดังนั้นหากรหัสผ่านถูกเปิดเผยหรือไม่เป็นความลับไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ หรือมีเหตุที่อาจเชื่อได้ว่ารหัสผ่านนั้นถูกเปิดเผยหรือไม่เป็นความลับ เจ้าของข้อมูลควรติดต่อบริษัทเพื่อเปลี่ยนรหัสผ่าน อีกทั้งให้ออกจากระบบบัญชีการใช้บริการ (Log off) และปิดบราวเซอร์ (Browser) ทุกครั้งที่ใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะ
6.3 การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลด้วยรูปแบบเอกสาร มีการจัดเก็บในตู้เก็บเอกสารโดยต้องมีกุญแจเปิด - ปิด เฉพาะคนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
6.4 การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือระบบสารสนเทศ ต้องมีรหัส (Password) เฉพาะคนที่เก็บรักษาเท่านั้น
6.5 การเข้าใช้ข้อมูลส่วนบุคคล สามารถเพิ่มเติมได้ แต่จะลบ จะเปลี่ยนแปลงจะนําออกเองโดยพลการไม่ได้ ต้องได้รับอนุมัติจากผู้ควบคุมข้อมูล
7. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูล
บริษัทเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยสามารถยื่นคำร้องขอเรื่องต่างๆ ตามสิทธิของเจ้าของข้อมูล ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่เหมาะสม แต่ไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายได้กำหนดไว้
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย มีการคัดค้าน การจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใดๆ เช่น การแจ้งปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือลบข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
8. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้หน่วยงานต่างๆ
บริษัทไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลภายนอก อย่างไรก็ตาม สามารถแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมกับบุคคลภายนอกที่เชื่อถือได้ และบุคคลภายนอกดังกล่าวอาจอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศดังต่อไปนี้
8.1 ตัวแทนสื่อโฆษณา การตลาด หรือการส่งเสริมการขายของบริษัท เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของสื่อโฆษณา การตลาด และการส่งเสริมการขาย รวมถึงบริษัทย่อย สาขาของบริษัท และคู่ค้าทางธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศ
8.2 บุคคลภายนอกที่มีหน้าที่ส่งสินค้าหรือให้บริการ เช่น การจัดส่งสินค้าหรือพัสดุตามคำสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ใดๆ
8.3 บุคคลภายนอกที่บริษัท ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลให้เปิดเผยข้อมูล
8.4 ผู้ใช้บังคับกฎหมาย หรือหน่วยงานราชการที่มีอำนาจร้องขอให้เปิดเผยข้อมูล
8.5 ผู้วิเคราะห์เว็บไซต์ เช่น Google เป็นต้น
9. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
ผู้ควบคุมข้อมูลอาจส่งหรือโอนข้อมูลของเจ้าของข้อมูลไปยังต่างประเทศได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
9.1. ประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคลที่เพียงพอตามที่กฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
9.2. ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล โดยที่เจ้าของข้อมูลได้รับแจ้งและรับทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลนั้นแล้ว
9.3. เป็นการปฎิบัติตามกฎหมาย
9.4. เป็นความจำเป็นเพื่อการปฎิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของผู้ใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
9.5. เป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลกับบุคคลอื่นโดยเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งานเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
9.6. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือบุคคลใดๆ เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
9.7. เป็นความจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
10. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ตามความจำเป็นและเหมาะสม หรืออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฎิบัติ ข้อบังคับ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง การแก้ไขเปลี่ยนแปลงใดๆ บริษัทจะประกาศและเปิดเผยบนหน้าเว็บไซต์ของบริษัท หรือด้วยวิธีการอื่นที่เหมาะสม
11. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล มีการจัดเก็บตามกรอบเวลาในการดำรงสถานะการเป็นบุคลากรของบริษัท คู่ค้า ลูกค้า ผู้มาติดต่องานหรือบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง การเป็นสมาชิกและคู่สัญญา โดยจัดเก็บไว้ไม่เกิน 10 ปี สำหรับผู้ที่ให้ข้อมูลไว้แก่บริษัทเพื่อประโยชน์ของตน
12. ช่องทางการติดต่อ
หากเจ้าของข้อมูลมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ สามารถติดต่อบริษัทผ่านช่องทางดังนี้
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน)
เลขที่ 1/11 ถนนลำลูกกา ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12150
โทรศัพท์ : 02-791-0111 E-mail: [email protected]
วัน-เวลาทำการ: 08:00- 17:30น. (ยกเว้น วันเสาร์-วันอาทิตย์ วันหยุดราชการหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์)